Asahikawa
เมื่อเที่ยวชมเทศกาลหิมะจากซัปโปโรแล้ว สถานที่ที่จะไปต่อก็คือ Asahikawa ตามแผนที่ชาวบ้านเค้าไปกัน
Asahikawa เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ตั้งอยู่เกือบๆกลางเกาะฮอกไกโด ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้ ว่ากันว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่จะหนาวที่สุดในฮอกไกโดได้เลยทีเดียว
ถ้าเป็นหน้าร้อน เมืองนี้ก็จะมีที่เที่ยวข้างๆ คือ Biei และ Furano (นั่งรถไฟออกไปประมาณครึ่งชั่วโมง) ซึ่งก็จะปลูกดอกไม้เป็นทุ่งสวยงามเลยทีเดียวหละ
เดินทางไม่นานมาก นั่งรถไฟชั่วโมงครึ่ง ถ้าจะขับรถช่วงหน้าร้อนก็สองชั่วโมง
แผนที่เราวางวันนี้คือว่าจะไปเที่ยวสวนสัตว์ชื่อดัง Asahiyama Zoo ก่อนจะไปเที่ยวเทศกาลหิมะที่นี่ต่อ
หลังจากเช็คเอาท์ ฝากกระเป๋าที่โรงแรมแล้ว เราก็นั่งรถไฟจาก JR Sapporo ไป Asahikawa ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ก่อนขึ้นก็ซื้อข้าวกล่องที่เค้าบอกว่าขึ้นชื่อมาชิม (แต่ผิดหวังนะ 555)
มันออกเป็นแนวปลาดองหละ
ไปถึงที่ Asahikawa ก็ไปคุยกับ Tourist Center ถามเรื่องวิธีการเดินทาง ปรากฏว่าจากสวนสัตว์ มีรถบัสรับส่งฟรีไปลานที่จัดเทศกาลหิมะด้วย ก็ไม่รอช้าขอตารางเวลารถมาเลย
จากนั้นก็ออกไปข้างนอกสถานี เดินฝ่าหิมะออกไปรอที่ป้ายรถเมล์ คนก็เยอะอยู่เหมือนกันจนกลัวว่ารถจะเต็มขึ้นรอบนี้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ต้องกลัวมาก เพราะว่าเค้ามีรถคันที่สองให้ขึ้นด้วย ก็ขึ้นไปยืนเบียดอยู่ดีหละ นั่งรถไปสักพักก็ถึงแล้ว
ไฮไลท์ของข้าพเจ้าคือการไปดูเพนกวินพาเหรด ที่วันนึงจะมีสองรอบ กับการไปดูหมีขั้วโลกนี่หละ
แผนที่ (ต้นฉบับ)
ป้ายสวนสัตว์
การมาสวนสัตว์ช่วงหน้าหนาวนี่เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีฮะ โดยเฉพาะการวิ่งไปหาไออุ่นที่ตึกต่างๆ
ด้วยสภาพอากาศที่หนาวมาก ตอนกลางวันก็เกือบติดลบสิบองศา การเที่ยวชมของเราก็จะเป็นแนวพยายามรีบเดินจากที่โล่ง เข้าไปอาศัยฮีทเตอร์ในอาคารแสดงสัตว์แบบย่อมๆที่มีอยู่เรื่อยๆ
ขบวนนกเพนกวิน (ซึ่งคงจะเบื่อกับนักท่องเที่ยวแล้ว)
เดินแบบหยิ่งๆ
ดูคนสิ
ทางที่นกเพนกวินมันเดินออกมาก็จะเป็นโซนที่อยู่อาศัยของมันนี่หละ มีอุโมงค์ใต้น้ำให้ดูเวลามันว่ายน้ำด้วย
บรรดาเด็กๆ
ได้เห็นว่านกเพนกวินว่ายน้ำแบบใกล้ชิด
นี่ก็อีกสายพันธุ์นึง
สถานีถัดไปคือหมีขั้วโลกหละ จริงๆเหมือนจะลงข้างล่างไปดูได้ว่ามันว่ายน้ำยังไง แต่คนต่อคิวยาวเกิน
หมีขั้วโลก
แต่… ดูว่ามันชอบนอนเกลือกกลิ้งมากกว่านะ
(สุดท้ายหมีก็คือหมีนั่นหละ ก่อนไปคิดว่ามันจะต้องเท่ห์มาก แต่พอไปเห็นมันนอนเอ้งแม้งก็จบข่าว ทำลายความฝันหมด)
อีกอันที่น่าจะเด่นของที่นี่ก็คือแมวน้ำ
ขอเรียกมันว่าปลาหมึกยัดไส้ ดูยังไงก็เหมือน
ข้างนอกก็จะมีรูให้มันโผล่หัวออกมาด้วย
อย่างอื่นก็ดูไปเรื่อยๆหละ
สิงโตชมคน
Red Panda กรงของเจ้านี่จะมีสะพานเชือกให้มันเดินข้ามไปมา
นกฮูกตาชั้นเดียว
กวาง
นกกระเรียนญี่ปุ่น เห็นใกล้ชิดมาก แต่ไม่ธรรมชาติ
เหยี่ยว อยู่ในกรงใหญ่ๆ มีที่ให้มันบิน
สุนัขจิ้งจอก ขดเป็น FIreFox เลย
นี่เสือดาว… ไม่ใช่สิ ป้ายสวนสัตว์ต่างหาก
นี่เสาสัญญาณ
นี่คือเดินสุดไปทางด้านทางเข้ากรุ๊ปทัวร์ คือสวนสัตว์มันอยู่บนเนินเขา มองออกมาก็เห็นวิวสูงๆ ไกลๆ แบบนี้เลย
จริงๆแล้วมีสัตว์ให้ดูเยอะกว่านี้นะ แต่บางอย่างบ้านเราก็มี อย่างงู อย่างลิง มานี่ก็ได้เห็นหละว่าสัตว์ตัวไหนอยู่กับอากาศหนาวๆได้บ้าง ในแบบที่บ้านเราคงไม่มี
จากทางเข้าข้างหน้า ก็เดินชมสัตว์ต่างๆ ไปเรื่อยๆ และไปจบที่ทางออกด้านหลัง (มีของฝากมากมาย) ก็รอขึ้นรถไปที่จัดงานเทศกาลหิมะต่อเลย (อ่อ ถ้ามานอกช่วงเทศกาลหิมะ ก็คงต้องเดินกลับไปทางเข้าที่ลงจากรถเมล์ เพราะด้านหลังเป็นทางเข้าของกรุ๊ปทัวร์)
มาตอนอากาศไม่ค่อยดี ทุกอย่างเลยขาวไปหมด
ไซท์จัดงานเทศกาลหิมะที่นี่จะอยู่ติดริมแม่น้ำ ใกล้ๆสะพาน Asahibashi (ชื่อเมือง ชื่อสวนสัตว์ ชื่อสะพาน ลิ้นเริ่มพันกันแล้ว)
เข้าไปก็จะเจอปะติมากรรมชิ้นใหญ่ๆหนึ่งชิ้น ปีนี้เป็น Transformer นะ (แนะนำให้มาดูตอนกลางคืนด้วย จะมีฉายไฟได้เห็นเป็นสี) รอบข้างก็มีกิจกรรม(สำหรับเด็ก)ค่อนข้างเยอะ มีทั้งงานหิมะทำเป็นตัวการ์ตูนต่างๆ มีสไลเดอร์ให้เล่น ตรงนี้ก็จะออกแนวคล้ายๆกับที่ซัปโปโรหละ
แล้วก็มีซุ้มอาหารให้เลือกหลากหลาย
สไลด์เดอร์แมวจากโทโทโร่
อินเทรนด์ของปีที่แล้วคือยักษ์ไททัน
Monster Inc. ก็มา
No face
คุมะมง!
ซุปปูที่ไม่เหลืออะไรแล้ว (คือถือสองมือ ไม่มีเวลามาถ่ายรูปหรอก)
ที่ลานนั้นเค้าก็มีกิจกรรมเรื่อยๆหละ อย่างนี่ตีกล้องท้าหนาว
กิจกรรมก็มีแต่งตัวให้ตุ๊กตาหิมะ
ของประเทศอะไรไม่รู้เลยเนี่ย
ด้านหลังเป็นเหมือนสวนสาธารณะ หรือวัด หรืออะไรสักอย่าง แต่หิมะตกเต็มเลย
เริ่มเย็นหละ กลับเข้าเมืองแล้วกัน
เดินดูไปสักพักก็ได้เวลากลับเข้าตัวเมือง เช็คอินเข้าที่พัก (Super Hotel Asahikawa – ไปสองคน ได้ที่นอนเป็นเตียงสองชั้น – ส่วนออนเซ็นมันเล็กไปหน่อย) แล้วก็ออกมาเดินดูตัวเมืองหาของกินหละ ตอนไม่แบกกล้องไปแล้วหละ เพราะปวดหลัง ใช้คอมแพคถ่ายเอา
ปรากฏว่า ที่เมืองนี้มีงานแกะสลักน้ำแข็งแบบประกวดกันด้วย เดินๆดูแล้วสวยกว่าที่ซัปโปโรอีก (แต่อาจะไม่อลังการเท่านะ)
หิมะตกตลอดเวลา เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาก
เอ๊ะ ก่อนจะเดินดู ควรจะหาของกินก่อน เพื่อนข้าพเจ้าหามาร้านนึงคือ Baikohken (มีหลายสาขาเลย ที่สิงค์โปร์ก็มี) จริงๆกะจะไปอีกร้าน แต่เหมือนว่าจะไปไม่ทัน
นี่ไม่เชิงหิวนะ แต่เห็นว่าน่ากิน ก็เลยสั่งมา อร่อยดี
มิโซะราเม็ง ใส่เนย ก็อร่อยดี
มีความรู้สึกว่าราเม็งที่ฮอกไกโดก็อร่อยใช้ได้เหมือนกันนะ แต่ยังเป็นรองคิวชูอยู่
หลังจากที่กินจนอิ่มอืดแล้ว ก็เดินดูงานแกะสลักน้ำแข็ง
งานดูน่าสนใจดี
อย่างน้อยก็ไม่มีโฆษณาหละ
ชอบ
นกทะยาน (ถ่ายมาแล้วมองไม่ค่อยออกเลย)
ของไทยส่งเข้าประกวด สวยเชียว
มนุษย์ผีเสื้อ (นี่ก็ชอบนะ – บอกแล้วไงว่ามันสวยกว่าที่ซัปโปโร)
ดงตุ๊กตาหิมะ ตัวนี้ดูหลอนดี
Welcome to Asahikawa Winter Festival!
รูปปิดท้ายด้วยสายหิมะ คือเหมือนฝนตกปรอยๆนี่หละ แต่ว่าไม่เปียกทันที แล้วเกร็ดหิมะก็จะเข้าไปทุกซอกทุกมุม รอให้มันละลาย ><“
หลังจากนี้ก็เข้าที่พักแช่ออนเซ็นแล้วก็นอน วันรุ่งขึ้นจะไปบิเอะ (ซึ่งไปแล้วก็เฟล – รออ่านในบล็อกเก็บตกรวมหลายๆสถานที่เลยแล้วกัน) ถัดจากนั้นก็ไปอะบาชิริ
ส่วนนมฮอกไกโดหนะเหรอ… ลองเองแล้วกัน แหะๆ
– รภรัตน์
- Herman Miller Aeron Chair - 11 Apr 2020
- อัพเดทของเล่น ณ ตอนนี้ - 19 May 2019
- #หมดpassion - 10 Nov 2018