ตะลุยเกาะคิวชู วันที่ 5: ดอกทิวลิป ณ Huis Ten Bosch
เนเธอร์แลนด์ก็เคยไปแล้วนะ สวนเคอเค็นฮอร์ฟก็เคยไปมาแล้วด้วย แต่ว่าทิวลิปมันก็สวยอยู่… งั้นไม่ต้องไปถึงเนเธอร์แลนด์ ไปที่ Huis Ten Bosh หละกัน
วันนี้ตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อจัดกระเป๋าก่อนที่จะต้องรีบไปขึ้นชิงกันเซนตอนเจ็ดโมงเช้า (อดกินข้าวฟรีที่โรงแรม เพราะมันยังไม่เปิด)
ตอนแรกกะจะซื้อแซนวิซหมูคุโรบุตะหน่อย แต่ว่ารถไฟรอบแรกมันเช้าเกิน ร้านขายของกินในห้างไม่เปิด แต่พอใกล้ๆเวลารถไฟออก ร้านสะดวกซื้อก็มีข้าวกล้องเข้ามาพอดี
รถไฟคราวนี้เป็น Mizuho 600 (คือขบวนแรกของวันเลย) นั่งแค่ 77 นาทีก็ถึงฮากาตะแล้ว หลังจากนั้นก็ต้องนั่งรถไป Huis Ten Bosh ด้วยขบวนที่ชื่อว่า Ltd. Exp Huis Ten Bosch อีกเกือบๆสองชั่วโมงเพื่อไปถึงทางเข้าสวนสนุกแห่งนี้หละครับ
Huis Ten Bosch
HTB เป็นสวนสนุกที่จำลองสถาปัตยกรรมของเนเธอร์แลนด์ที่ทั้งสภาพบรรยากาศ และก็ตึกรามบ้านช่อง ให้บรรยากาศใกล้เคียงกับของจริงเลยทีเดียว (แต่สำหรับคนเคยไปที่จริงๆ ยังไงมันก็ไม่เหมือนของจริง; แต่แค่ขอไปเสพทิวลิปนี่หละ) ด้วยเป็นเพราะว่านางาซากิได้เคยติดต่อค้าขายกับชาวดัชท์มาก่อน ก็เลยมีความสัมพันธ์อันดี ถึงขนาดที่ยอมให้สร้างวังที่เอาแบบมาจากของจริงเลย
จุดเด่นของที่นี่คือการจัดดอกไม้แตกต่างกันตามฤดูด้วย ซึ่งช่วงซากุระนี้ ที่เด่นคือทิวลิป ส่วนช่วงอื่นก็จะมีดอกไม้ตามฤดูกาล และตอนกลางคืนก็มีเปิดไฟด้วย (ถ้าจำไม่ผิดก็สวยเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น; แต่วางแผนไม่ค่อยดีเลยไม่ได้อยู่ดู)
ด้านเครื่องเล่น ที่เด่นๆเลยก็มีเรือ Thousand Sunny ของเรื่อง One Piece ที่จำลองมาด้วยขนาดจริงๆ (พร้อมทั้งของที่ระลึกหลากหลาย ที่จะให้เงินในกระเป๋าหายไปอย่างรวดเร็ว; แต่พอดีไม่ได้ดูอะครับ กลัวดูแล้วจะติด)
เครื่องเล่นอย่างอื่นก็จะมีแนวๆ 4D 5D ที่น่าจะเข้าไปลองดูกันบ้าง แต่คราวนี้กะจะมาดูดอกไม้อย่างเดียว ก็เลยขอบายก่อน (เก็บไว้ก่อน รอมากับกิ๊ก กับแฟน จะได้ไม่เบื่อ …หรือเพื่อนๆถ้าเป็นทางเลือกสุดท้าย)
ตั๋วชมทิวลิปอย่างเดียว 3900 เยน ตั๋วพาสปอร์ท 1 วัน 5900 เยน รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่นี่ครับ
หลังจากหาที่ยัดกระเป๋า (ตรงสถานีรถไฟหาที่ใส่กระเป๋าเดินทางใหญ่ๆนี่ดูแล้วตู้มีไม่เยอะมาก แต่ถ้าจำไม่ผิดตรงใกล้ๆทางเข้าสวนสนุกก็จะมีล๊อคเกอร์อีกที่นึง) ก็เดินเข้าไปหละ
หลังจากซื้อตั๋วแล้ว (ค่าตั๋ว 3900 เยน นั่งรถบัสได้ แต่วัยรุ่นๆเนี่ยเดินได้สบายอยู่แล้ว แล้วก็นั่งเรือชมวิวได้ด้วย ส่วนเครื่องเล่นจ่ายแยกหมด) เดินเข้ามาก็จะเจอทุ่งทิวลิปขนาดย่อมๆ พร้อมกังหันสูบน้ำเสมือนจริง มีบางอันเข้าไปดูการทำงานการดูดน้ำได้ (แต่เน้นย้ำอีกรอบว่าลมไม่แรง มันก็หมุนได้)
ทิวลิปที่นี่จะงามเสมอ เพราะว่าถ้าต้นไหนดอกร่วงแล้วเค้าจะเปลี่ยนใหม่เลย (นี่มันสวนสนุก มิใช่เคอเค็นฮอฟ)
หลังจากผ่านด่านพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีแล้ว ก็จะได้เห็นทุ่งทิวลิปที่เพิ่งเห็นเมื่อกี้นี่หละ
ถัดไปเป็นโซนเครื่องเล่น ขนาบข้างด้วยร้านของกิน ของช้อป รวมถึงช้อปของวันพีซด้วย และช่วงที่ไปก็มีนิทรรศการของ level 5 พอดีอีก (แต่ไม่มี Ni No Kuni)
สิ่งเดียวที่ยอมควักกระเป๋าคือการขึ้นลิฟท์ที่หอคอย ไปดูวิว (ห้าร้อยเยน)
ถ้าเลือกมุมดีๆ ก็นึกว่าอยู่ที่ยุโรปได้เลย
หลังจากขึ้นหอคอย ก็ลงและเดินๆไปถึงวังจำลอง (ค่าเข้าห้าร้อยเยน; แต่ตอนนั้นนึกประหยัดอันใดมิทราบขึ้นมา เลยไม่ได้เข้าไป)
บ่ายกว่าก็เลยหาของกิน และถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ แต่ว่าวันนี้คงจะตื่นเช้าไป เลยเหนื่อย

ย้อนกลับมาถ่ายรูปซ่อม เพราะว่ารูปถ่ายจากมือถือลงอินสตาแกรมสวยกว่ากล้องใหญ่… แต่ว่าทัวร์จีนลงแล้ว (จริงๆคือทัวร์ไทย แต่พยายามทำตัวว่าฟังภาษาไทยไม่ออก ช่วงนั้นเบื่อคนไทย)
อยู่จนถึงบ่ายสามกว่าๆ ก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ก็เลยนั่งเรือเล่นก่อนที่จะนั่งรถไฟสาย SeaSide Liner ไปเมืองนางาซากิ (รถมีชั่วโมงละรอบ ใช้เวลาชั่วโมงสิบห้านาที)
Nagasaki
ไปถึงก็ห้าโมงเย็น เริ่มมืดๆแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ไปโรงแรม ต้องมาซื้อตั๋วรถไฟก่อน (เหตุผลต้องติดตามบล็อกถัดไป) แถมโรงแรมที่จองก็เดินค่อนข้างไกล (ตอนจองก็ดูว่าห้าร้อยเมตร คงไม่หนักหนามาก เพราะว่าที่อื่นราคาไม่ถูกเท่า แต่ว่าของจริงมันต้องขึ้นเนินนี่สิ) แต่โรงแรมมันออกแนวเก่าหน่อย (ชักโครกไม่มีที่ล้างก้นอัตโนมัติ!) พนักงานโรงแรมก็แอบงงตอนเช็คอิน นึกว่าเราจ่ายเงินแล้ว ตอนลงจากห้องเลยเอาใบจองไปให้ดู พร้อมกับจ่ายเงิน
แต่เนื่องจากหลังจากวันนี้ ไม่ได้เตรียมแผนให้รอบคอบ Tourist Info ก็ปิดไปแล้ว และก็หิวโซจนกินข้าวหน้าเนื้อแสนประหยัด ก็ปรากฏว่าไม่ได้ขึ้นกระเช้าไปถ่าย Milli0n Dollar View เศร้าเสียใจ แต่ไหนๆก็ลองหาที่เที่ยวหน่อยแล้วกัน เลยขึ้นรถรางไปสวนสันติภาพ
เมืองเค้าพอตอนกลางคืนมันเงียบมาก เงียบจนกลัวจะโดนปล้น
ที่เที่ยวอื่นก็ไม่ได้ศึกษา จะไปห้างก็ดูไม่รู้จะไปทำอะไร ดังนั้นเวลาสองทุ่มก็เลยออกจากสวนสันติภาพและกลับเข้าที่พัก วันนีเหนื่อยจริงๆ
สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้
- Bento 1050
- Coffee 120
- Ticket 3900
- Locker 400
- Observatory 500
- Pizza roll 500
- Chocolate Cake Set 1100
- Train 4430
- Yoshinoya 390
- Tram 120
- Tram 120
- Hotel 4200
- Snack 407
รวมแล้ว 17,237 เยน ถ้าไม่รวมค่ารถไฟก็ 12,807 เยน (แพงขึ้นเพราะค่าเข้า HTB นี่หละ)
- Herman Miller Aeron Chair - 11 Apr 2020
- อัพเดทของเล่น ณ ตอนนี้ - 19 May 2019
- #หมดpassion - 10 Nov 2018
ติดตามอ่านทุกตอน ภาพสวย รายละเอียดเยี่ยมครับ กำลังจะไปเดือนหน้านี้เหมือนกัน
ขอบคุณมากเลยครับ :)